สำรวจประวัติศาสตร์จริงในปี 2512 ที่แวดล้อมใน Shine ซีรีส์เกย์เรื่องใหม่จาก Be On cloud

Post on 11 August 2025

เรียกว่าเป็นที่จับตามองตั้งแต่ยังไม่ออนแอร์เลยก็ว่าได้สำหรับ ‘Shine’ ซีรีส์เรื่องใหม่ล่าสุดจาก Be On Cloud ที่เคยฝากผลงานดังอย่าง KinnPorsche: The Series และภาพยนตร์พีเรียดสุดละเมียดอย่างแมนสรวง เพราะนอกจากจะเป็นการโคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งของ มาย - ภาคภูมิ ร่มไทรทอง และ อาโป - ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ นี่ยังถือว่าเป็นเกย์ซีรีส์ (อิงจากคำประกาศของผู้จัด) เรื่องแรกที่ออนแอร์บนช่อง 7 อีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องราวฉากหลังของ ‘Shine’ ก็ยังเปิดตัวมาแบบเข้มข้น เพราะอิงกับเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2512 ช่วงเวลาที่ทั้งโลกกำลังคุกรุ่น ทั้งจากสภาวะสงครามเย็นที่ยังไม่คลี่คลาย รวมถึงในประเทศไทยเองก็กำลังเป็นช่วงเวลาที่ประเทศชาติเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ที่กำลังจะนำพาทุกอย่างเดินหน้าเข้าสู่เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ที่จะเกิดขึ้นในสี่ปีให้หลังจากเหตุการณ์ในซีรีส์

เมื่อเห็นว่าฉากหลังอัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์ที่เข้มข้นขนาดนี้ หลังจากดูอีพีแรกจบ GROUNDCONTROL เลยอยากชวนทุกคนมาย้อนสำรวจประวัติศาสตร์ยุค 60 ที่กลายเป็นฉากหลังในซีรีส์เรื่องนี้ไปด้วยกัน ตั้งแต่ก้าวแรกบนดวงจันทร์ของ นีล อาร์มสตรอง เบื้องหลังวัฒนธรรมฮิปปี้ที่เป็นเอกลักษณ์หลักของตัวละครธันวา และฉากหลังการเมืองไทยในปี 2512 ที่ตฤณต้องเข้าไปพัวพันและรับมือ เพื่อเพิ่มความอิน และเข้าใจกับทุกสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้แบบไม่ขาดตอน!

การเหยียบดวงจันทร์ ก้าวเล็ก ๆ ของมนุษยชาติ จุดพลิกผันแห่งยุคสงครามเย็น

ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โลกของเรากำลังอยู่ในยุค ‘สงครามเย็น’ (Cold War) หรือภาวะความขัดแย้งทางการเมืองและอุดมการณ์ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตย (สหรัฐอเมริกา) และฝ่ายคอมมิวนิสต์ (สหภาพโซเวียต) รวมถึงพันธมิตรของแต่ละฝ่าย ซึ่งเกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามนี้ไม่ได้มีการสู้รบกันโดยตรง แต่เป็นการแข่งขันทางอำนาจในด้านต่าง ๆ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ การทหาร และการโฆษณาชวนเชื่อ และหนึ่งในสนามรบที่ร้อนแรงที่สุดก็คือ ‘อวกาศ’ เวทีจักรวาลที่ใช้เป็นหน่วยวัดศักยภาพของแต่ละฝ่าย

ในช่วงเวลานั้น สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญแรงกดดันมหาศาล หลังโซเวียตชิงส่งดาวเทียม ‘สปุตนิก 1’ ขึ้นสู่วงโคจรได้เป็นครั้งแรกของโลกในปี 2500 และในปี 2504 โซเวียตก็ยังสามารถส่ง ‘ยูริ กาการิน’ มนุษย์คนแรกขึ้นสู่อวกาศได้ก่อนอีกครั้ง สองเหตุการณ์นี้ไม่เพียงทำให้โซเวียตดูเหนือชั้นในเวทีเทคโนโลยี แต่ยังจุดชนวนให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘วิกฤตการณ์สปุตนิก’ ซึ่งทำให้ชาวอเมริกันรู้สึกเสียหน้า วิตกกังวล และตั้งคำถามว่าหรือคอมมิวนิสต์จะชนะในสงครามนี้

ด้วยเหตุนี้ เป้าหมายในการไปเหยียบดวงจันทร์จึงกลายเป็นหมากตัวใหม่ของสหรัฐอเมริกา รวมถึงโซเวียตด้วย เพราะมันคือ ‘พื้นที่ที่ยังไม่มีใครไปถึง’ หากสำเร็จ ก็จะเป็นข้อพิสูจน์ว่าระบบไหนกันแน่ที่ดีกว่ากัน อย่างไรก็ตาม เป้าหมายนี้ไม่ง่ายนักสำหรับสหรัฐอเมริกา พวกเขาต้องเผชิญกับความล้มเหลวนับไม่ถ้วน ตั้งแต่การระเบิดของจรวดตั้งแต่ยังไม่ออกจากฐาน ไปจนถึงการทดลองที่ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะเดียวกัน โซเวียตก็ยังคงเดินหน้าแซงหน้าด้วยความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง

และแล้ว ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2512 นีล อาร์มสตรอง ก็ได้กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ก้าวลงบนพื้นผิวดวงจันทร์ พร้อมกล่าวประโยคในตำนานว่า “This is one small step for a man, one giant leap for mankind” หรือ “นี่คือก้าวเล็ก ๆ สำหรับมนุษย์ แต่เป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของมนุษยชาติ”

และวันนั้นเองคือวันเริ่มต้นของฉากแรกในซีรีส์เรื่อง ‘Shine’ ที่ตัวละครหลายคนมาเฝ้ารอการขึ้นสู่ดวงจันทร์อย่างคึกครื้น สำหรับเรา ฉากนี้ไม่ได้มีความหมายแค่บอกสภาพการณ์ทางประวัติศาสตร์ให้คนดูรับรู้ยุคสมัยเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาใหญ่ที่กำลังจะตามมาระหว่างคนสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคือฝั่งรัฐบาลและชนชั้นสูงในวงสังคมที่ถูกแทนที่ด้วยตัวละครต่าง ๆ ในบาร์ ที่เฝ้ามองการขึ้นสู่อวกาศอย่างยินดี และอีกฝั่งหนึ่งคือนักศึกษาที่กำลังรอโอกาสจะเข้ามาประท้วง

สิ่งนี้ทำให้เราเห็นแนวคิดของรัฐบาลไทยในยุคนั้นที่ฝักใฝ่ในฝ่ายเสรีนิยม และต่อต้านคอมมิวนิสต์ แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่ใช่รัฐบาลที่ก้าวเข้ามาอย่างโปร่งใสในสายตาปัญญาชนยุคนั้น การฝักใฝ่ในประชาธิปไตย แต่กดขี่ เซ็นเซอร์ และจับกุมคนเห็นต่าง โดยอ้างว่าปราบคอมมิวนิสต์ เลยถูกตั้งคำถามอย่างหนัก และนั่นคือชนวนสำคัญที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 หรือสี่ปีให้หลังจากฉากนี้นั่นเอง

พ.ศ. 2512 จุดเริ่มต้นของเมล็ดพันธุ์แห่งการเปลี่ยนแปลง เค้าลางความรุนแรงก่อน 14 ตุลา 2516

ในซีรีส์เรื่อง Shine เราจะเห็นภาพกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาประท้วงฝ่ายรัฐบาล ที่เป็นแบบนั้นเป็นผลมาจากความไม่พอใจผลการเลือกตั้ง ที่ทำให้ประเทศไทยมีสภาวะ ‘ประชาธิปไตยครึ่งใบ’

หลังจากที่ประเทศไทยไม่ได้จัดการเลือกตั้งมานานนับสิบปี การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2512 จึงเหมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาคือการที่ จอมพลถนอม กิตติขจร ได้จัดตั้งรัฐบาลภายใต้เสียงสนับสนุนจาก ส.ส. ที่มาจากการแต่งตั้ง ไม่ใช่จากเจตจำนงของประชาชนโดยตรง รัฐธรรมนูญที่ใช้ในขณะนั้นก็มอบอำนาจอันกว้างขวางให้กับฝ่ายบริหาร ทำให้การเลือกตั้งกลายเป็นเพียงพิธีกรรมเชิงสัญลักษณ์ มากกว่าจะเป็นการคืนอำนาจสู่มือประชาชนอย่างแท้จริง

บรรยากาศแบบนี้ทำให้นักศึกษาเริ่มตั้งคำถามอย่างจริงจัง พวกเขาใช้บทความ สิ่งพิมพ์ และกิจกรรมต่าง ๆ เป็นช่องทางสะท้อนความไม่พอใจ หนึ่งในเวทีสำคัญคือ สังคมศาสตร์ปริทัศน์ ที่เปิดพื้นที่ให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่ออำนาจรัฐอย่างตรงไปตรงมา ขณะเดียวกันเครือข่ายนักศึกษาก็เริ่มก่อตัว จนนำไปสู่การจัดตั้ง ‘ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย’ (ศนท.) ในปีถัดมา

สงครามเย็นยังส่งอิทธิพลต่อการเมืองไทย เพราะการที่ฝ่ายประชาธิปไตยและฝ่าคอมมิวนิสต์กำลังสู้กัน ทำให้รัฐบาลไทยที่อยู่ฝั่งประชาธิปไตยนำนโยบายปราบคอมมิวนิสต์มาใช้ในการปราบผู้เห็นต่างทางการเมือง ภายใต้ข้ออ้างเรื่องความมั่นคงของชาติ ทำให้ประชาชนในยุคนั้นขาดเสรีภาพในการแสดงออกและการวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้นักศึกษาไทยในยุคนั้นไม่พอใจ พวกเขาไม่ได้ประกาศตัวว่าเป็นคอมมิวนิสต์ แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีที่รัฐอ้างภัยคอมมิวนิสต์เพื่อใช้ควบคุมสังคมเช่นกัน

ดังนั้น บรรยากาศในปี 2512 จึงเป็นมากกว่าเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์ หากแต่คือจุดเริ่มต้นของคลื่นลูกใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงสังคมไทยอย่างลึกซึ้ง เป็นปีที่เสียงของนักศึกษาเริ่มมีความหมาย เสียงของประชาชนเริ่มเปล่งดัง และโครงสร้างอำนาจที่เคยมั่นคงก็เริ่มสั่นคลอน

วัฒนธรรมฮิปปี้ กลุ่มบุปฝาชนผู้เสรีที่เบ่งบานกลางสงครามเย็น

พอเห็นตัวละคร ‘ธันวา’ หนึ่งในคำที่ผุดขึ้นมาก็คือคำว่า ‘ฮิปปี้’ กลุ่มคนหนุ่มสาวที่แหกคอกจากสังคมกระแสหลักในทศวรรษ 1960 (ประมาณปี พ.ศ. 2503 - 2513) พวกเขาเลือกจะรักแทนที่จะรบ เลือกจะฟังเสียงภายในมากกว่าคำสั่งของรัฐ และเชื่อในเสรีภาพมากกว่ากฎเกณฑ์ของสงคราม

วัฒนธรรมฮิปปี้ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ ‘บุปผาชน’ เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางบรรยากาศของสงครามเย็นและการปะทะทางอุดมการณ์ระหว่างโลกเสรีกับโลกคอมมิวนิสต์ การต่อต้านสงครามเวียดนามที่สหรัฐอเมริกาส่งทหารนับแสนไปรบในนามของประชาธิปไตย ทั้งหมดนี้ได้กลายเป็นจุดตั้งต้นของการตั้งคำถามต่อคุณค่าของสังคมอเมริกัน และเหล่าฮิปปี้ก็คือกลุ่มคนที่เลือกแสวงหาสันติภาพ ความรัก และการเติบโตทางจิตวิญญาณผ่านดนตรี ปรัชญาตะวันออก และการเดินทางไกล

หนึ่งในเส้นทางสำคัญของกลุ่มฮิปปี้เรียกว่า ‘Hippie Trail’ เส้นทางทางบกจากยุโรปผ่านตุรกี อิหร่าน อัฟกานิสถาน ไปสู่จุดหมายปลายทางอย่างอินเดียและเนปาล พวกเขาออกเดินทางด้วยเงินไม่มาก แต่เต็มเปี่ยมด้วยความหวังว่าจะพบ ‘เสรีภาพที่แท้จริง’

ประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของพวกเขาในช่วงทศวรรษ 1970 หลังการสิ้นสุดสงครามเวียดนามและการเดินทางที่สะดวกขึ้น โดยกระแสนี้ยิ่งพุ่งแรงมากขึ้นหลังปี 2522 เมื่อเส้นทาง Hippie Trail ต้องปิดตัวลงจากสองเหตุการณ์สำคัญในบริบทสงครามเย็น หนึ่งคือการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน และสองคือการรุกรานอัฟกานิสถานโดยสหภาพโซเวียต และเมื่อประเทศเหล่านี้ไม่ปลอดภัย ทำให้นักเดินทางเบนเข็มมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง เห็นได้จากการเติบโตของเกสต์เฮาส์บนถนนข้าวสารและการเริ่มเข้ามาของนักท่องเที่ยวกลุ่มแรก ๆ

ซึ่งเรื่องราวของ Shine เกิดขึ้นในช่วงที่กำลังจะขึ้นทศวรรษที่ 70 พอดี บางที ธันวาอาจจะเป็นหนึ่งในคนที่รับวัฒนธรรมฮิปปี้กลุ่มแรก ๆ ในประเทศไทยเลยก็ว่าได้

อ้างอิง

Encyclopaedia Britannica. (n.d.). Cold War. In Encyclopaedia Britannica. Retrieved August 11, 2025, from https://www.britannica.com/event/Cold-War

National Aeronautics and Space Administration. (n.d.-d). 55 years ago: Apollo 11’s one small step, one giant leap (John Uri). NASA. Retrieved August 11, 2025, from https://history.nasa.gov/55-years-ago-apollo-11-one-small-step

Pridi Banomyong Institute. (2022, October). ย้อนรอยสงครามเย็นและผลกระทบต่อไทย. Retrieved August 11, 2025, from https://pridi.or.th/th/content/2022/10/1291

National Aeronautics and Space Administration. (n.d.). Sputnik. NASA. Retrieved August 11, 2025, from https://www.nasa.gov/history/sputnik/index.html

National Aeronautics and Space Administration. (n.d.). Apollo 50th: Missions. NASA. Retrieved August 11, 2025, from https://www.nasa.gov/specials/apollo50th/missions.html

National Aeronautics and Space Administration. (n.d.). July 20, 1969: One giant leap for mankind. NASA. Retrieved August 11, 2025, from https://www.nasa.gov/history/july-20-1969-one-giant-leap-for-mankind/

King Prajadhipok’s Institute. (n.d.). ประชาธิปไตยครึ่งใบ. Retrieved August 11, 2025, from https://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%9A

Silpa-Mag. (2020, August). สงครามเย็น: จากโลกสองขั้วสู่วิกฤตการณ์ในเอเชีย. Retrieved August 11, 2025, from https://www.silpa-mag.com/history/article_40175

14tula.com. (n.d.). เหตุการณ์ก่อน 14 ตุลาคม 2516. Retrieved August 11, 2025, from https://www.14tula.com/before/before_sub1.htm

King Prajadhipok’s Institute. (n.d.). ศูนย์กลางนโยบายศึกษาแห่งประเทศไทย. Retrieved August 11, 2025, from https://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=%E0%B8%A8%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2

CNN Travel. (n.d.). The hippie trail: How a generation of dropouts went in search of enlightenment. Retrieved August 11, 2025, from https://edition.cnn.com/interactive/travel/hippie-trail-history-lonely-planet/